มุมมองการเรียนรู้ของโรงเรียนทางเลือก (Home School) จากเพจขอแม่เล่นด้วย

Last updated: 6 ม.ค. 2566  | 

 

ปัจจุบัน มุมมองด้านการศึกษาของคนในสังคมเปลี่ยนไป ทำให้รูปแบบการเรียนรู้ถูกเปิดกว้างมากขึ้น การเรียนรู้ของเด็กยุคนี้จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องเรียน หรือ ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีการเรียนรู้นอกห้องเรียน การเรียนรู้ด้วยตัวเอง และโรงเรียนทางเลือก ที่ครอบครัวยุคใหม่ให้ความสนใจมากขึ้น

มัมสเตอร์ เลยอยากชวนทุกคนไปดู "มุมมองการเรียนรู้" ของโรงเรียนทางเลือก หรือ โฮมสคูล (Home School) ของ คุณแม่ส้มเจ้าของเพจ ขอแม่เล่นด้วย ซึ่งความน่าสนใจของคุณแม่ส้มในการทำโฮมสคูลคือ การใช้เรื่องราวง่ายๆในชีวิตประจำวันเป็นห้องเรียนรู้ของลูก โดยให้ลูกเป็นศูนย์กลางในการเลือกสิ่งที่ลูกสนใจ และได้ใช้เวลาดื่มด่ำในสิ่งที่ลูกอยากเรียนรู้จริงๆ

 

“ความยากของการทำ Home school ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในและภายนอก ของคุณแม่ส้มคืออะไร?”

● แม่ส้ม : ปัจจัยภายใน คือตัวส้มเองค่ะ หลายๆครั้งที่เราอาจเกิดความรู้สึกลังเลในการทำโฮมสคูล เพราะว่าเป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับบ้านเรา ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าสิ่งที่เราเลือกจะออกมาได้ผลลัพธ์แบบไหน หลายๆครั้งเราก็เผลอเปรียบเทียบว่าหากเราเอาลูกเข้าระบบจะดีกว่ารึเปล่า ทั้งในแง่ของการบริหารเวลา การหารายได้ การเรียนการสอนที่เราเองไม่ได้ทำตามระบบจะส่งผลกับลูกมากน้อยแค่ไหน ลึกๆแล้วเราก็แอบกังวลว่าเราอาจจะทำได้ไม่ดีพอ เกิดความคาดหวัง “ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องจัดการความคิดตัวเอง และพยายามมองไปที่เป้าหมายแรกที่เราตั้งใจไว้ค่ะ”

ส่วนปัจจัยภายนอก แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่คนมองเข้ามา หลายๆครั้งที่เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเข้าใจในระบบโฮมสคูลได้ อาจเกิดคำถามที่ว่า ลูกเราจะเข้าสังคมได้เหรอ วิชาการจะสู้เด็กคนอื่นได้มั้ย ทำไมแม่ถึงปิดกั้นสังคมไม่ให้ลูกเข้าโรงเรียน เด็กจะกลายเป็นคนไม่มีเพื่อนหรือเปล่า สำหรับคำถามเหล่านี้หากเป็นคนนอกครอบครัว เราก็พยายามอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุและผล บางคนก็รับฟังสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ แต่บางคนที่ไม่เข้าใจเราทำได้ก็แค่ปล่อยผ่าน “อยากแนะนำให้คนในครอบครัวพูดคุยตกลงกันให้ดีก่อน เพราะหากไม่มีการตกลงให้ดี อาจมีการขัดแย้งทางความคิดทำให้การทำโฮมสคูลไปต่อได้ยากค่ะ”

 

 

“อธิบายบรรยากาศห้องเรียนที่บ้านในแต่ละวัน”

● แม่ส้ม : หลายๆคนอาจคิดว่าการทำโฮมสคูลคือการนั่งเรียนอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ทุกๆที่คือห้องเรียนของเราค่ะ อย่างเช่น วันนี้เราไปซื้อของที่ตลาด ห้องเรียนของเราก็คือตลาด เราได้เรียนรู้การซื้อ-ขาย บวก-ลบนับเลข ได้เจอพ่อค้า-แม่ค้าพูดคุยทักทายสารทุกข์สุขดิบ เราก็ได้เรื่องทักษะสังคม วันนี้ตลาดมีปลาอะไร ราคาของถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอะไรได้บ้าง กับข้าวแต่ละอย่างทำจากอะไร ผักผลไม้ตามฤดูกาลช่วงนี้มีอะไรขายได้บ้าง ทุกอย่างเราสามารถเรียนรู้ได้หมด

บางวันเราก็ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนตามพิพิธภัณฑ์ วัด สวนสัตว์ สวนสาธารณะ ห้องสมุด ป่าชายเลน ภูเขา ทะเล ไปได้หมด เพราะเราค่อนข้างมีอิสระทางด้านเวลา “ส้มให้ลูกเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ให้เค้าได้เลือกสิ่งที่เค้าสนใจ แล้วเราค่อยต่อยอด ประยุกต์ เอาสิ่งที่เค้าสนใจไปยังสาขาวิชาต่างๆ ซึ่งเค้าเองก็มีความสุขที่ได้มีโอกาสเลือก และได้ใช้เวลาดื่มด่ำในสิ่งที่เค้าอยากเรียนรู้จริงๆ”

 


“ความสุขของการทำโฮมสคูล”

● แม่ส้ม : ความสุขของการทำโฮมสคูล คือ เราได้มีเวลาให้กันแบบเต็มที่ ส้มได้เห็นพัฒนาการ ความสนใจต่างๆของลูกที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ในแง่ของความสัมพันธ์เราได้เรียนรู้นิสัยใจคอ ได้ปะทะอารมณ์ และปรับจูนความเข้าใจ ได้ใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ ลูกได้เรียนรู้จากเรา และเราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากลูกด้วย มันคือการได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แม่และลูกได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ

 

“สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นแม่และการเลี้ยงลูก”


● แม่ส้ม : หลายคนคงอยากเป็นแม่ที่ดีที่สุด แต่คงไม่มีแม่คนไหนที่สมบูรณ์แบบ 100% ส้มเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งสำคัญของการเป็นแม่คืออะไร เพราะเราเองก็เพิ่งเป็นแม่ได้เท่ากับอายุของลูกแค่นั้น… กับลูกก็เช่นกัน เค้าเองก็มีประสบการณ์การเป็นลูกเท่าๆกับเรา

เพราะฉะนั้น…ในระหว่างทางการเลี้ยงลูก มันย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ที่อยากบอกคือ ในความผิดพลาดต่างๆ คุณต้องรู้จักการให้อภัยทั้งกับตัวเอง และกับลูกด้วย จากนั้นก็ก้าวเดินต่อ… เหนือสิ่งอื่นใดการปรับลดอีโก้ เปิดใจรับฟังกันและกัน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันมากขึ้น และมันก็คือความสุขระหว่างทางในการใช้ชีวิตของคนเป็นแม่ค่ะ


ทักษะไหนที่คุณแม่คิดว่าเราจำเป็นจะต้องสอนเด็กๆ ในยุคนี้

● แม่ส้ม : หลักๆ คือ 3 ด้านค่ะ อันแรกเลย “ทักษะด้านการเรียนรู้” ในแง่ของความกระตือรือร้น มีความคิดสร้างสรรค์ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจาก AI ส่วนอันที่สอง “ทักษะการใช้ชีวิตในสังคม” รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมถึงการมองเห็นข้อดีและเคารพในตัวเอง การรู้จักคิดแบบมีวิจารณญาณ ไม่ไหลลื่นไปตามกระแสสังคม และสุดท้าย “ทักษะการใช้เทคโนโลยี” ในยุคปัจจุบันและอนาคตเราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากไม่มีการพัฒนาตัวเอง โอกาสใหม่ๆที่จะเข้ามาก็ค่อนข้างจำกัด เพราะในอนาคตคงมีอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมากมายค่ะ

 

สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ที่กำลังสนใจการทำโฮมสคูล มัมสเตอร์คิดว่ามุมมองที่ได้จากคุณแม่ส้ม มีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้