Last updated: 30 ก.ย. 2565 |
คุณน้ำฝน ณัจยา นันทเทิม คุณแม่ลูก1 และเจ้าของเพจสุดคิ้วท์ “โตโตไปกับลูก” ชวนคิดเรื่องการให้ลูกเรียน “Home school” รวมถึงวิธีเลี้ยงลูกให้เป็น “Global Citizen” ภายใต้พื้นฐานความต้องการที่อยากสอนลูกให้เคารพและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงความแตกต่าง หลากหลาย ของทั้งวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ วิถีชีวิต
คุณพ่อ คุณแม่ ในยุคปัจจุบันล้วนมีแนวคิดและวิธีการเลี้ยงลูกที่หลากหลาย แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการเติบโตและการเดินทางของแต่ละครอบครัว แต่ทว่าพ่อแม่ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่อยากเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นไปเป็นคนที่พร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เค้าสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบใหญ่ได้อย่างมั่นคงค่ะ
“ทำไมถึงให้ลูกเรียน Home school”
เราอยากใช้เวลาร่วมกันมากๆในช่วงเวลาที่ลูกยังเด็กยังไม่สามารถตัดสินใจเลือกอะไรของตัวเองได้ เพราะถึงเวลาที่เขาเลือกเองได้แล้ว เราจะให้เขาเลือกเอง อาจจะเลือกอยากไปโรงเรียน อยากไปต่างประเทศ เราก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนเต็มที่
อยากให้ลูกเติบโตในแบบของเขา ในวัฒนธรรมของครอบครัวเรา แบบที่ไม่มีการวัดผลโดยคนที่ไม่เข้าใจเขาจริงๆ หรือวัดผลแบบเหมารวม รวมไปถึงวัดผลไปเพื่อความคาดหวังหรือความต้องการของคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์จริงๆ ต่อตัวลูกเอง อยากให้ลูกได้ใช้เวลาในการเรียนรู้เรื่องที่ตัวเองสนใจจริงๆได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับอะไรที่ไม่จำเป็น
ลูก 1 พ่อแม่ 2 (1:2) คุณภาพน่าจะดีกว่าครู 1 นักเรียน 20 1:20 และเรารักลูกเรา และใส่ใจลูกเราได้มากกว่าแน่นอน อยากเป็นอิสระ อยากเดินทางท่องเที่ยว ทำกิจกรรมร่วมกันในวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุดที่ทุกๆคนหยุดพร้อมกัน
“พูดถึงการเลี้ยงลูกให้เป็น Global Citizen”
Global Citizen ในความหมายของเราคือ อยากให้เค้ารู้ว่า ไม่มีพวกฉัน ไม่มีพวกเธอ เราทุกคนคือประชากรของโลก เป็นหนึ่งเดียวกัน มีชีวิตอยู่ในโลกเหมือนๆกัน ฉะนั้นจงเคารพทุกๆคน ทุกๆสิ่งๆ อย่างสิ่งมีชีวิตเท่าๆกัน พื้นฐานมาจากอยากให้ลูกเข้าใจอย่างลึกซึ้งและเคารพในความแตกต่าง หลากหลาย ของทั้งวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ วิถีชีวิตและที่สำคัญที่สุดคือความคิด คนเรามีประสบการณ์ในชีวิต การเติบโตที่ต่างกัน การเดินทางทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องนี้อย่างเป็นธรรมชาติ ลึกซึ้ง และสนุก
Life has no boundaries ประเทศเป็นแค่เส้นสมมติ ลูกทำได้ทุกสิ่งในโลก (รวมทั้งนอกโลก)ที่ลูกอยากทำ เป็นได้ทุกอย่างที่ลูกอยากเป็น ตราบใดที่สิ่งนั้นมันไม่ทำร้ายผู้อื่นหรือทำร้ายตัวเอง
“จุดเริ่มต้นของการพาลูกเดินทาง”
เริ่มจากเราชอบเสพความตั้งใจทำสิ่งต่างๆของผู้คน เสพผลงาน เสพการใช้ชีวิต เสพการจัดวางสิ่งต่างๆในมุมมองที่แตกต่างกัน เรากับสามีก็เลยชอบเดินทาง ไปตามประเทศต่างๆ จังหวัดต่างๆ ที่เค้ามีมุมมองต่อโลกที่แตกต่างจากเรา พอมีลูกเราก็ทำเหมือนเดิม ทำตามความชอบของเราทั้งคู่เหมือนเดิม เดินทางไปตามที่ต่างๆ ไปนั่งเสพชีวิต เสพผลงานเหมือนเดิม ลูกก็เลยต้องไปด้วย 555
“บทเรียนที่ได้ระหว่างทาง”
เราเป็นทีมเราต้องสื่อสารกันให้เข้าใจตรงกันเสมอ อธิบายความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน ตรงไปตรงมาจะได้จัดการง่าย ร้อนก็บอกร้อนขอพัก หิวก็กิน ง่วงก็นอน ความอดทนไม่ค่อยจำเป็นมากนักในการเดินทาง แต่ความเข้าใจกันและกัน และความเคารพในทุกความเห็นเพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทางคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ลูกไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวจิ๋วที่จะหวังว่าเค้าจะเข้าใจทุกอย่าง (อยู่เงียบๆในห้องโรงแรม หรือลิฟ อย่าวิ่งในร้านอาหาร ) และลูกก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่อง ต้องถามความรู้สึกและความต้องการเขาเสมอ ให้เขาเป็น 1 เสียงในการออกความเห็น เลือกสิ่งต่างๆ ลูกคือสมาชิคของทีมไม่ใช่ตัวแถม
“จะทำอย่างไร เมื่อถึงวันที่ลูกมีเส้นทางเดินของตัวเอง”
ที่เราทำทุกวันนี้ก็เพื่อส่งให้เขาไปเดินตามทางของเขาได้เองอย่างแข็งแรง และเข้าใจตัวเองให้ได้มากที่สุด สามารถเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ และกล้าหาญที่จะปฏิเสธหรือรับผิดชอบในสิ่งที่สมควรกล้าหาญเมื่อถึงเวลา เพราะปะป๊าหม่าม้าก็ตั้งใจอย่างมากที่จะทำแบบนั้นกับตัวเอง และตอนนี้ก็ตั้งใจมากๆ ที่จัดการชีวิตตัวเองให้มีเวลามากที่สุดเท่าที่จะมีได้กับลูกอย่างเต็มที่ ในช่วงชีวิตที่ลูกยังต้องการเรา แล้วเมื่อถึงเวลาที่ลูกอยากเลือกทางของตัวเอง เราก็จะคอยสนับสนุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
“แก่นสำคัญของเพจ โตโตไปกับลูก คืออะไร”
เริ่มจากเราเองชอบเขียน ปกติเขียนๆอะไรเล่นๆแต่ไม่เคยได้ให้ใครอ่าน อยากลองแบ่งสิ่งที่เขียนให้คนอื่นลองอ่านดูบ้าง เราเลยเลือกเขียนเรื่องที่เรากำลังอินอยู่ก็คือเรื่องลูก แล้วตั้งแต่มีลูกเรามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายที่เรารู้สึกอย่างชื่อเพจจริงๆ ที่ชื่อเพจว่าโตโตไปกับลูก มันเป็นคำที่เราชอบใช้ปลอบใจตัวเองเวลาที่มีอะไรไม่ได้ดั่งใจตัวเอง หรือเวลาที่รู้สึกว่าเป็นแม่ที่ไม่ดีเลยเรา ก็จะพูดกันตัวเองว่า หน่าโตโตไปกะลูกเว่ย เพราะจริงๆเลยตั้งแต่มีลูก ลูกทำให้ภายในใจเราเติบโตขึ้นมากๆ เราพยายามเข้าใจตัวเองมากขึ้นมากๆ จากที่เคยคิดว่าอ่านหนังสือเลี้ยงลูกมากๆจะได้เป็นแม่ที่ดี เป็นแม่ที่เก่ง แต่พอเอาเข้าจริง สิ่งที่เราเองคิดว่าเราต้องมีมากที่สุดมันไม่ใช่การเป็น”แม่”ที่ดี อย่างที่ใครๆเขาเรียกกัน
แต่คือ การเป็น”คน” ที่ดีต่างหาก คนที่รู้จักตัวเอง รู้เท่าทันความคิด ความรู้สึกตัวเอง ไม่ให้พลั้งเผลอทำอะไรที่เราเองก็ไม่ชอบตัวเอง อย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจใส่”ทุกคน”ไม่ใช่แค่ลูก
เราพยายามอย่างมากที่จะเป็นเราในแบบที่ดีที่สุด เพื่อความสุขสงบของตัวเองอย่างไม่เบียดเบียนใคร และเป็นแบบอย่างให้ลูกด้วย
แก่นและเจตนาจริงๆคือเรื่องนี้แหละ เราโตโตไปกับลูกจริงๆ อย่างชื่อเพจเลย
มารู้จักแม่น้ำฝนเพิ่มขึ้น กับอีกหนึ่งเรื่องราวในชีวิต
"ระวังตัวอย่างดีแต่ลูกติดโควิด" คลิก
7 ต.ค. 2565