รวมเมนูสุขภาพ มัดใจคุณสามีช่วงกักตัวอยู่บ้าน

Last updated: 29 เม.ย 2563  | 

 
กักตัวอยู่บ้านวนไป ช่วงนี้หลายครอบครัวต้องทำอาหารทานเอง เพราะสามารถเลือกวัตถุดิบได้ ปรุงสะอาดกว่า ปลอดภัยกว่ากินข้างนอก  วันนี้มัมสเตอร์ X ครัวแม่เร ขอเสนอไอเดียเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ทานกันได้ทั้งครอบครัว รับรองว่ามัดใจคุณสามีและคุณลูกได้แน่นอนค่ะ
 
  เรายังคงคอนเซ็ปเดิม = ทำง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยาก  ครั้งนี้มีเมนูอะไรบ้างไปดูกันเลยค่า  
 
ข้าวปั้นห่อหมูย่าง
วันนี้ชวนมาทำข้าวกล่องกันค่ะ สำหรับมื้อเช้าหรือมื้อกลางวันก็ได้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแต่ครัวแม่เรขอใช้ข้าวกล้องไทยๆเราเองนะคะ ในช่วงเวลาเร่งด่วนเราสามารถเตรียมของไว้ในตอนเย็นแล้ว นำมาปรุงในตอนเช้าได้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานค่ะทั้งยังครบ 5 หมู่ ในหนึ่งกล่องด้วย
เตรียมของ
- ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย หรือ120 กรัม (ปั้นได้ประมาณ 12 คำ)
- งาขี้ม่อนคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูข้าว 1 ช้อนชา
- มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อหมูส่วนสันคอสไลด์
- ไข่ต้ม + ผักลวกตามชอบ
- มายองเนสแบบไขมันต่ำ
ซอสสำหรับย่างหมู
- โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
- มิริน 3 ช้อนโต๊ะ
 
** มิริน เป็นเหล้าหวานสำหรับปรุงอาหารซึ่งทำมาจากข้าวเหมือนกับสาเกญี่ปุ่น เพียงแต่ว่าจะมีปริมาณแอลกอฮอลล์ที่ตํ่ากว่า เนื่องจากมีกระบวนการในการหมักที่แตกต่างกันและเพิ่มรสหวานด้วยนํ้าตาลเข้าไปหมักด้วย จึงออกมามีสีที่ใสคล้ายไซรัป นิยมนำไปปรุงอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโอยาโกะด้ง (ข้าวหน้าไก่ใส่ไข่), ซุปมิโสะ, ข้าวซูชิ, ซอสเทริยากิ และอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว
 
ลงมือทำ
1. ผสมน้ำส้มสายชูข้าวกับมิรินให้เข้ากัน ตักข้าวใส่ถ้วยขณะที่ข้าวยังร้อนโรยงาขี้ม่อนบนข้าว และค่อยๆราดส่วนผสมปรุงรสข้าว(อย่าใส่ไปหมด) คลุกเคล้าให้เข้ากันลองชิมดู ให้ข้าวพอออกรสเปรี้ยวหวานนิดๆนะคะ
2. ปั้นข้าวขนาดพอดีคำ ประมาณนิ้วหัวแม่มือ จากนั้นวางบนหมูสไลด์ ห่อข้าวโดยเก็บหัวท้ายให้เรียบร้อยพักไว้ (สามารถทำเก็บแช่เย็นไว้ใช้ในวันรุ่งขึ้นได้ค่ะ)
3. ผสมน้ำซอสสำหรับย่าง คือโชยุ และมิรินเทรวมคนให้เข้ากัน ชิมดูให้ออกรสหวานนำเค็มตาม
4. ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน วางหมูที่ห่อเสร็จเรียงลงบนกระทะ แล้วราดซอสลงบนหมูปิดฝาประมาณ3นาที จากนั้นคอยกลับด้านหมูไปเรื่อยๆจนสุก ยกขึ้นพักไว้
5. จัดใส่กล่องข้าว โดยมีไข่ต้ม และผักลวกเป็นเครื่องเคียง มายองเนสสำหรับจิ้มเพิ่มรสชาติ
อาจผสมวาซาบิเล็กน้อยแก้เลี่ยนก็อร่อยดีค่ะ
 
ประโยชน์ในจาน
งาขี้ม่อน : งาขี้ม่อน (Perilla seed) เป็นธัญพืชที่สามารถรับประทานได้ทั้งเมล็ดและใบ ลักษณะของเมล็ดจะคล้ายงา มีคาร์โบไฮเดรต แคลเชียม โพแทสเชียม และยังมีสารสำคัญอีกมากเช่น
มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ โดยเฉพาะ LDL ที่มักเกาะตามผนังหลอดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดอุดตัน
สาร SESAMOL สารนี้มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้
ข้อควรระวัง เหมาะสำหรับเด็ก 1ขวบปีขึ้นไป และผู้ที่ไม่มีอาการแพ้งา หรือธัญพืชอื่น ๆ
สตรีที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
 
 
ฟักทองผัดกุ้งแห้ง
อาหารบ้านๆที่หลายคนมองข้าม  อยากจะบอกว่าประโยชน์และความอร่อยไม่ธรรมดาเลยค่ะ แถมทำง่าย ทานได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่ลูก ๆไปจนถึงคุณตาคุณยาย สูตรนี้รสชาติจะเค็มหวานกำลังดีค่ะ มีความเค็มนัวๆจากกุ้งแห้ง รสหวานก็มาจากฟักทองเองโดยที่ไม่ต้องใส่น้ำตาลเลย คุณแม่ที่ดูแลสุขภาพน่าจะชอ บนะคะ ทำง่ายขนาดไหนไปดูกันเลยค่า ..
 
เตรียมของ
- ฟักทอง หั่นชิ้นบาง 1+1/2 ถ้วย
- กุ้งแห้ง ตำพอแหลก 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ต้นหอม หั่นเป็นท่อน 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ ½ ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอกสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
 
ลงมือทำ
1. การเตรียมกุ้งแห้ง ควรล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 รอบเพื่อลดความเค็มเลือกขนาดไม่ใหญ่มาก นำมาตำพอแหลกพักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงผัดพอหอม ใส่กุ้งแห้งลงผัดซักครู่ จึงใส่ฟักทองตามแล้วผัดต่อจนกุ้งแห้งสีเข้มขึ้น
จึงใส่น้ำสะอาดระดับน้ำพอๆกับฟักทอง (ไม่ต้องท่วม)
3. เมื่อน้ำเดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำหอย ผัดให้เข้ากันแล้วต้มฟักทองต่อไปเรื่อย ๆ คอยผัดเป็นระยะๆจนน้ำเริ่มขลุกขลิก และฟักทองสุกนิ่มดี (หากฟักทองยังไม่สุกให้เติมน้ำไปอีกเล็กน้อยต้มจนสุก)
4. ใส่ไข่ไก่ แล้วผัดจนไข่สุกและแห้ง ใส่ต้นหอมผัดต่ออีกครู่ ปิดไฟ จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องร้อนๆ
 
มาดูประโยชน์กันค่ะ
ฟักทอง : มีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5
วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินอี
ฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม โซเดียม แมงกานีส เหล็ก และเบตาแคโรทีน เป็นต้น
o ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและความแก่ชรา
o ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
o ช่วยบำรุงสุขภาพฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง
o ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
o สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร "ฟักทอง" ซึ่งมีฤทธิ์อุ่น จะช่วยย่อยอาหาร
ทำให้กระเพาะอุ่น บำรุงกำลัง ลดอาการอักเสบ แก้ปวดได้อีกด้วย
o ฟักทองยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย
เพราะฟักทองมีกากใยสูง มีแคลอรีและไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูล : www.medthai.com/ฟักทอง
 
เมนูอาหารจีน ที่นิยมทำให้คุณแม่หลังคลอด
เพื่อบำรุงร่างกายและเรียกน้ำนมส่วนสามาชิกคนอื่นๆในบ้านก็ทานดีค่ะ ซดน้ำซุปไล่อาการหวัดได้ดีเลยค่ะ การจู่คือการผัดแบบสะดุ้งน้ำซุปโดยใช้ไฟแรงจะทำให้น้ำซุปหอมรสชาติจะออกเค็มนิด ๆ เผ็ดหน่อย ๆ และหอมขิง ส่วนความหวานจะได้จากน้ำซุป ผักหรือน้ำซุปไก่(ตามสะดวก) สามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นเนื้อไก่หรือเนื้อหมูได้ตามชอบนะคะ เป็นเมนูที่ทำง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลยค่ะ
 
เตรียมของ
- ปลาช่อน หั่นเป็นชิ้น
- ขิง ซอย
- ต้นหอม หั่นท่อน
- ขึ้นฉ่าย หั่นท่อน
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยบด ½ ช้อนชา
- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปผัก (หอมใหญ่, แครอท, ข้าวโพด)
 
ลงมือทำ
1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ทอดเนื้อปลาช่อนให้เหลืองสุกแล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยใช้ไฟอ่อน ใส่กระเทียมสับและขิงลงไปผัดให้กลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว และพริกไทย
3. นำเนื้อปลาช่อนลงผัดให้เข้ากับส่วนผสม จากนั้นเร่งไฟแรงแล้วเทน้ำซุปลงไปให้ท่วมเนื้อปลา ใส่ต้นหอม และขึ้นฉ่ายผัดต่ออีกสักครู่ จนน้ำซุปเดือดจัด
4. ตักใส่ถ้วย จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องร้อน ๆค่ะ
 
เคล็ดลับ : ขิงที่ใช้ จะใช้ขิงที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป เนื่องจากเราจะได้ทานเนื้อขิงได้ง่าย
แต่ยังได้ความเผ็ดและความหอมของขิงด้วย ส่วนเต้าเจี้ยว ควรใช้อย่างดีที่ไม่เค็มมากเกินไป
ประโยชน์จากเมนูนี้
ปลาช่อน : เป็นหนึ่งในปลาน้ำจืดไทย ที่มีกรดไขมันดี อย่างโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยรักษาความสมดุลของหลอดเลือด ทั้งนี้ยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย หาซื้อง่าย และราคาไม่สูง ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นำมาบริโภคเพื่อสุขภาพ
ขิง : เป็นสมุนไพรที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติและกลิ่น สามารถนำมาทำเมนูได้ทั้ง คาว หวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งประกอบไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี1 บี2 บี3 วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็กเป็นต้น ทั้งนี้ทุกส่วนของขิง เช่น ราก เหง้า ต้น แก่น ดอก ใบ และผล ล้วนนำมาใช้ประโยชน์ได้หมด ขิงสามารถช่วยลดอาการท้องอืด บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาการปวดไมเกรน ลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้หวัด บรรเทอาการไอ และยังช่วยบำรุงน้ำนมคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้