ทฤษฎี Less is More จิตวิทยาสู่ความสุข

สมมติว่าคุณขับรถที่มี 2 ที่นั่งไปพบคน 3 คน ที่คุณควรจะรับไปส่งได้แต่รับได้คนเดียว  คุณจะรับใครดี…เพราะอะไร
 
คนที่ 1  เป็นหมอที่เคยรักษาคุณ  มีบุญคุณกับคุณ คุณต้องอยากรับแน่ ๆ
คนที่ 2  เป็นคนป่วย  คุณคงอยากรับเพราะนึกถึงคุณธรรมที่ต้องช่วยคนป่วย
คนที่ 3  เป็นเพื่อนเก่าที่สนิทและอยากคุยกันมากเพราะไม่ได้พบกันนาน  ถ้านั่งรถไปด้วยกันคงคุยเพลินแน่

ถ้าให้คุณตอบคงมีคำตอบที่หลากหลายแน่ ๆ....
ถ้าเป็น 'ผู้ใหญ่' มักจะคิดมาก  หลายคนเลยไม่รู้จะรับใครดี  คิดไม่ออกหรือลังเล ถ้าเป็น 'เด็ก' จะคิดน้อยหน่อย  อาจจะตอบว่ารับเพื่อนไปเลยก็ได้จะได้คุยกันให้สนุก  ไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน

ที่จริงจะตอบว่ารับใครไปก็ได้ทั้งนั้นเพราะเป็นสิทธิของคุณ  ขึ้นกับความคิดและวิสัยทัศน์ของแต่ละคน   เหมือนเวลาชีวิตมีปัญหาก็มักมีทางออกทางแก้ไขได้หลายทางให้คุณเลือก  ซึ่งมีทั้งที่ถูกใจมากได้ผลมาก  หรือถูกใจน้อยได้ผลน้อย  หรือสลับไปมาก็ได้

แต่ถ้าเปิดใจให้กว้างมองโลกในแง่บวก  มีไหวพริบ  มีสติอยู่กับปัจจุบัน  คุณอาจจะมีคำตอบดี ๆ เข้ามาให้เลือกได้มากขึ้น

เช่นกรณีนี้…
- คุณอาจจะยอมเสียสละเวลาของคุณลงจากรถไปนั่งคอย  แล้วให้หมอขับรถไปกับคนไข้ไปส่งโรงพยาบาลเพราะเขาจะดูแลกันได้ดีด้วย  และคุณก็ได้ทั้งการตอบแทนบุญคุณหมอและได้ช่วยคนไข้ให้ได้ไปโรงพยาบาลด้วย
- ส่วนตัวคุณก็นั่งคุยกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้พบมานานให้สนุก  รอคอยโบกรถทางผ่านหรือรอรถโดยสารตามไปโรงพยาบาลเพื่อรับรถคืนก็ได้
- ปัญหาลังเลขัดแย้งในใจก็หมดไปถ้าคุณเปิดใจกว้าง  มองโลกในแง่ดี  มีไหวพริบและยืดหยุ่นได้
- เหมือนเวลาเกิดปัญหาในชีวิตถ้าคุณกล้าตัดสินใจโดยใช้สูตรเปิดใจกว้าง  มองโลกทางบวก  ใช้ไหวพริบ  คิดถึงปัจจุบันให้มาก  คุณจะมีคำตอบและวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ดี

คนส่วนใหญ่ทุกข์เพราะคิดถึงอนาคต   กลัวว่าจะไม่ดี....ทำให้เป็นทุกข์

ไอสไตน์เคยพูดไว้ว่า...
เขาไม่คิดถึงอนาคตหรอกเพราะอีกเดี๋ยวมันก็มาถึงแล้ว  นั่นหมายถึงให้โฟกัสที่ปัจจุบัน  อย่ากังวลเกี่ยวกับอนาคต  ความฟุ้งซ่านกังวลก็จะลดน้อยลง ทุกครั้งที่เกิดปัญหาในชีวิตจงพยายามตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน  อาจหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกช้า ๆ สัก 3 ครั้งก็ได้  จะรู้สึกผ่อนคลายได้มาก และหาทางคุมชะตาชีวิตของตัวเองให้ได้  ตัดสินใจด้วยตัวเอง  อย่าปล่อยให้คนอื่นมาคุมชะตาชีวิตของคุณ

อย่ากลัวโลกและชีวิต  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรับความจริงไปเลย  เมื่อเกิดปัญหาแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหนค่อยว่ากันอีกที  เพราะยังไง ๆ โลกและชีวิตทั้งของคุณและคนอื่น ๆ ในโลกก็เป็นอย่างที่มันเป็นนั่นแหละ  ไม่ได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็นหรอก  และไม่ได้เป็นอย่างที่คุณอยากให้เป็นด้วย  ก็คือ…อย่าไปคาดหวังมันเลย

คุณรู้ไหมว่า
พวกที่มีความคาดหวังสูงคือพวกวัยรุ่น

ที่มักจะคิดและคาดหวังว่าทุกอย่างในชีวิตจะออกมาสวยหรู  ดีเลิศ  แต่มักผิดหวังทั้งนั้น  ถ้าเขาไม่พัฒนาความคิดเขาจะผิดหวังซ้ำซากไปทั้งชาติและก็มีผู้ใหญ่จำนวนมากที่ติดนิสัยวัยรุ่น  บางคนไม่ทำงานประจำ  ชอบชีวิตอิสระเสรี  ไม่เคยแต่งงาน  ไม่เคยมีครอบครัว  มีลูก  เอาแต่เรียนหรืออ่านหนังสือมีความรู้มาก  พวกนี้จะติดนิสัยวัยรุ่นได้มาก  คือคาดหวังสูง…ผิดหวังบ่อย  และวิตกกังวลเพราะกลัวความผิดหวังจะมาเยี่ยมเยือนอีก…เหมือนที่เคยได้รับมาแล้ว

ฉะนั้น…จงอย่ารอคอยชีวิตที่สมบูรณ์แบบเลย  ไม่มีหรอก  และไม่มีใครได้ด้วย  ถ้าจะมีความสุขจงมีความสุขวันนี้  เดี๋ยวนี้ไปเลย  ไม่ใช่รอคอยอนาคตให้พร้อมกว่านี้จึงจะมีความสุขได้

(ผมชอบใช้คำว่าถ้าจะทำอะไรให้ทำเดี๋ยวนี้…ไม่ใช่เดี๋ยวก่อน  ถ้าจะสุขก็สุขเดี๋ยวนี้  ไม่ใช่เดี๋ยวก่อน  คอยก่อน)

- อย่ารอคอยให้ผอม  สวย  รวย  หล่อ  หรือเก่งกว่านี้แล้วจะมีความสุขเลย  คุณอาจไม่มีวันนั้นเพราะคุณไปไม่ถึง  อาจตายเสียก่อน  หรือวิตกกังวลจนเป็นโรคเครียดไปก็ได้

- ปิดปากเสียบ้าง  พูดและวิจารณ์คนอื่นให้น้อยลง  รู้จักฟังให้มากขึ้น  จะได้ไม่สร้างศัตรูให้ชีวิตเหนื่อย

- รู้จักคำว่า “เจียมตัว” และ “ถ่อมตัว” ให้ดี  คุณจะมีชีวิตที่พอเพียงและไม่เป็นที่หมั่นไส้ของคนอื่น

- หมั่นพัฒนาสิ่งดี ๆ ในจิตใจ 2 อย่างคือ  ความรัก (เมตตา)และความดี  ให้งอกงามให้มากขึ้น  คุณจะมีความสุขและไม่หลงใหลในวัตถุนิยม

- คุณอาจไม่มีอะไรมากมายนักในชีวิตไม่มีสิ่งฟุ่มเฟือยซึ่งจะเป็นของราคาถูกทันทีเมื่อคุณมีมันแล้ว  เพราะคุณจะเห็นค่ามันน้อยลงและแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ ต่อไปอีก

- แต่คุณจะเหลือสิ่งที่มีคุณค่ามากในชีวิตของคุณ  ซึ่งก็คือความสุขในปัจจุบันที่เรียบง่ายเสมอ

นึกถึงคำว่า
Less is More ออกไหมเล่า ?
นั่นแหละของดีที่คุณควรมีในชีวิต