Last updated: 18 เม.ย 2567 |
เด็กๆ ในช่วงวัยตั้งแต่ 10 ขวบที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นมักจะใช้ “ห้องนอน” เป็นพื้นที่การเรียนรู้ สร้างสรรค์ สานฝัน และเพื่อความบันเทิง แต่ความแตกต่างด้านเพศอาจจะมีสไตล์การจัดห้องนอนที่ไม่เหมือนกัน พ่อจ๋าแม่จ๋าอาจจะต้องจัดห้องนอนให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพศ และจำนวนคุณลูกอีกด้วย แต่ก่อนอื่นเราเริ่มจาก “ข้อดีของการแยกห้องนอนกันก่อน” เพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่มั่นใจยิ่งขึ้น
ข้อดีของการแยกห้องนอน ในแง่จิตวิทยา
ห้องนอน...บอกบุคลิกภาพของลูก
เมื่อลูกมีพื้นที่ส่วนตัว พวกเขาจะแสดงออกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ แต่งตัว การพูดคุยกับเพื่อนๆ ขณะ VDO Call หรือการ Live ในแบบที่ตัวเองเป็น ประหนึ่งห้องนอนเพิ่มความเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นด้วยค่ะ
ห้องนอน...ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ
ลูกๆ มีเหตุผลหลายอย่างที่อยากแยกห้องนอน นอกจากช่วงวัยที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว บางทีอาจจะเริ่มรับรู้ว่า พ่อกรนมาก แม่จุกจิก หรือเตียงเริ่มคับแคบไปแล้ว เหล่านี้จะส่งผลให้การนอนหลับของลูกไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพการเรียนก็จะถดถอยตามไปด้วย
ห้องนอน...เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้
เด็กๆ จะถวิลหาโต๊ะทำงาน เตียงนอน ตู้หนังสือ ของเล่น ตุ๊กตา เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุีก แท็บเล็ต หรือแม้แต่วอลเปเปอร์ในแบบที่ตัวเองชอบ ถ้าลูกได้สิ่งที่ตัวเองเลิฟแล้ว คุณลูกก็อยากทำกิจกรรมในห้องนอนไม่ค่อยอยากไปไหน แล้วยิ่งตอนนี้มีการเรียนออนไลน์ ลูกๆ ก็จะได้จัดมุมการเรียนรู้ในแบบของเขาได้อย่างอิสระ และอาจช่วยดึงศักยภาพที่หลบอยู่ข้างในออกมาได้อย่างเต็มที่
พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม
คราวนี้คุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องมาคำนึงถึง “พื้นที่ใช้สอย” เพื่อเตรียมห้องนอนให้คุณลูกอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงเพศ วัย และจำนวนลูก
ครอบครัวไหนมีลูกคนเดียวก็ดีหน่อย ตัดสินใจได้ง่าย หากบ้านไหนมีลูกหลายคนก็ต้องดูความเหมาะสมของพื้นที่ภายในบ้านว่าพอสำหรับการแยกห้องนอนให้กับลูกๆ ทุกคนหรือไม่ หากไม่พอก็ต้องใช้วิธี “แชร์ห้องนอน” ร่วมกัน เป็นต้นว่า หญิงนอนกับหญิง ชายนอนกับชายพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม
ถ้าครอบครัวไหนมีหญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง แต่มีห้องเดียว อาจใช้วิธีแยกโซน หรือไม่ก็ต้องพึ่งเตียง 2 ชั้น แล้วแยกมุมโต๊ะหนังสือ ส่วนพักผ่อน พื้นที่เก็บของ และพื้นที่ทำกิจกรรมไว้ให้พวกเขาต่างหาก ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นวิธีที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ สร้างความผูกพันระหว่างพี่น้อง และได้เรียนรู้ใจกันและกันอีกด้วย
การออกแบบห้องนอน
ห้องนอนต้อง “ปลอดภัย”
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น พ่อแม่ต้องทำให้ห้องไม่มีของเกะกะ รกพื้น อาจจะมีตะกร้าใส่ของเล่น กล่องจัดระเบียบ ส่วนปลั๊กไฟ สวิทช์ไฟจะต้องไม่อยู่ต่ำหรือสูงจนเกินไป เฟอร์นิเจอร์ต้องแข็งแรง อย่างเช่นเตียง เพราะเด็กๆ ชอบกระโดดโลดเต้นบนที่นอน ส่วนขอบเตียง ขอบโต๊ะต้องไม่มีเหลี่ยม ไม่มีคมตามมุมต่างๆ เป็นต้น
“แต่งแต้มสีสัน” ผนังห้องนอน
วอลเปเปอร์ เลือกสีโทนอ่อน อย่างพวกสีพาสเทล ละมุนๆ ดูเป็นเจ้าหญิง ส่วนลูกชายอาจจะสีสันจัดจ้านเพิ่มขึ้น ให้ความรู้สึกสนุกสนาน เหล่านี้จะช่วยสร้างจินตนาการให้แก่ลูกได้มากขึ้น
“เฟอร์นิเจอร์” ห้องนอน
ของตกแต่งห้อง ลูกสาวอาจจะต้องเพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งอีกสักตัว ถ้าไม่มีพื้นที่มากพอ ปรับมาใช้เป็นกระจกแขวนผนังหรือตั้งพื้น เพื่อให้ลูกสาวได้ส่องเห็นชุดของเธอในขณะสวมใส่ นอกเหนือจากที่มีโต๊ะทำงาน ลูกๆ อาจจะมีสิ่งอื่นๆ เข้ามาภายในห้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ คอมพิวเตอร์ เกม หรือแม้แต่เครื่องดนตรี โมเดลสะสมของลูกชาย ตุ๊กตาตัวโปรดของลูกสาว ซึ่งเด็กในวัยนี้มักจะนำมาเก็บไว้ภายในห้องของตนเอง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้ห้องนอนของลูกจ๋าเปลี่ยนไปแทบจะทุกวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยส่วนตัว ความชอบหลงใหลในไอดอลของตัวเอง ก็จะอยากมีเหมือนไอดอลของเขา ทั้งแฟชั่น ของสะสม ตุ๊กตา หรือเทรนด์ต่างๆ เป็นต้น
3 ต.ค. 2567
13 ต.ค. 2567
25 ต.ค. 2567
4 พ.ย. 2567