5 อาการธรรมดา ที่ให้ผลร้าย "ไม่ธรรมดา"

เป็นไข้ น้ำมูกไหล ปวดท้อง มีผื่นคัน เหล่านี้เป็นอาการไม่สบายทั่วไป ที่เกิดขึ้นได้กับเด็กวัยเตาะแตะ พ่อแม่บางรายมีความเป็นกังวลสูง เมื่อลูกเจ็บนิดเจ็บน้อยก็รีบพาไปหาหมอทั้งที่ไม่จำเป็น บางรายให้การดูแลรักษาผิดๆ ตามความเชื่อของตัวเอง จนความหวังดีขยายผลกลายเป็นเหตุร้ายไปอย่างไม่ควรจะเป็น ขณะเดียวกันอาการธรรมดาก็อาจเป็นอาการเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงโรคร้ายที่กำลังบ่อนทำลายสุขภาพของลูกน้อยคุณ ความพอดีของการดูแลสุขภาพเจ้าตัวน้อยจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำความเข้าใจอาการธรรมดายอดฮิตที่เด็กๆ มักเป็นกันเพื่อที่คุณจะได้รู้ทันและรับมือกับมันได้อย่างเหมาะสม เราไปดูกันว่าอาการธรรมดาเหล่านี้มีอะไรบ้าง

ไข้ขึ้นสูง 
อาการไข้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่างกายใช้ในการป้องกันตัวเองจากติดเชื้อโรค เมื่อเด็กเป็นไข้ นั่นหมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของเขากำลังทำงาน หากเด็กยังกินได้ ดื่มได้ และมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 100 องศาฟาเรนไฮท์ ถือว่าเขายังอยู่ในอาการที่ไม่ร้ายแรงอะไร ไม่จำเป็นต้องพึ่งยา หรือรีบพาไปหาหมอแต่อย่างใด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่มักเป็นกังวลเมื่อพบว่าลูกน้อยมีอาการป่วยไข้ จากผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารกุมารเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกาพบว่าพ่อแม่ 1 ใน 4 รายมักให้ลูกกินยาลดไข้ทั้งๆ ที่ลูกมีอุณหภูมิไม่ถึง 100 องศาฟาเรนไฮท์ และอาการทั่วไปยังคงปกติดีอยู่ ซึ่งยาลดไข้เพียงช่วยลดไข้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปจัดการกับเชื้อโรคที่เขารับเข้ามาในร่างกาย เมื่อพ่อแม่เห็นว่าอาการไข้ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเด็กมีการติดเชื้อหายไป ก็รู้สึกสบายใจหายห่วง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเชื้อโรคนั้นยังคงอยู่ ซึ่งมันอาจพัฒนาไปสู่อาการที่ร้ายแรงกว่าไข้สูงธรรมดา

ปวดหัวมาก 
อาการปวดหัวมักมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อบนหนังหัวตึงแน่น ไม่ค่อยมีสาเหตุเชื่อมโยงมาจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง อาการสามารถทุเลาลงได้ด้วยการให้นอนพักผ่อน หรือให้ยาบรรเทาปวด แต่ถ้าอาการปวดกินเวลานาน และเป็นผลให้เด็กกินไม่ได้ นอนไม่หลับ งอแงเล่นไม่สนุกอย่างเคย คุณควรพาไปพบแพทย์ โดยปกติเด็กเล็กๆ มักจะไม่มีอาการปวดหัว แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอะไรร้ายแรง ยกเว้นถ้าเด็กมีอาการปวดหัวบ่อยครั้ง หรือปวดหัวร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น มีอาการเบลอ สับสน ตาพร่ามัว และมีปัญหาในการเดินด้วยแล้ว ควรให้แพทย์ทำการวินิจฉัย หากอาการปวดร่วมกับมีไข้ อาเจียน เบลอ คอแข็ง กรณีเช่นนี้อาจมีการติดเชื้อ หรือเป็นโรคร้ายแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ต้องรีบพาไปแพทย์แพทย์โดยด่วน

ผื่นขึ้นตามตัว 
หากลูกน้อยของคุณมีผื่นขึ้นบริเวณแขน หรือเท้า ก็ไม่ต้องเป็นกังวลมากนักเพราะผื่นลักษณะนี้ไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าผื่นขึ้นทั้งตัวเห็นทีคุณคงต้องตรวจดูแล้วว่าควรพาไปพบหมอหรือไม่ วิธีตรวจก็ง่ายๆ ลองใช้นิ้วแตะดูหากผื่นแดงเปลี่ยนเป็นสีขาว หรือซีดขาว และเมื่อปล่อยนิ้วออกมันกลับเป็นสีแดงอีกครั้ง อย่างนี้ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะผื่นลักษณะนี้เกิดขึ้นจากอาการแพ้ทั่วๆ ไป แต่ถ้าผื่นมีลักษณะเป็นจุดสีแดง หรือแดงเข้มจนเป็นม่วง เมื่อใช้นิ้วกดดูแล้วไม่เปลี่ยนสี นี่อาจเป็นอาการแสดงของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือร่างกายติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะมีอาการไข้ขึ้นร่วมด้วย อย่างไรก็ตามผื่นลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ที่ใบหน้าหลังไอ หรืออาเจียน ซึ่งไม่ใช่อาการรุนแรงอะไรนัก แต่เพื่อความแน่ใจหากมีผื่นแดง หรือม่วงขึ้นเป็นดวงๆ ตามตัว กดแล้วไม่เปลี่ยนสี คุณควรพาเจ้าตัวเล็กไปให้คุณหมอตรวจดูจะดีกว่า หากพบว่าเป็นอาการร้ายแรงจะได้รีบให้การรักษาได้ทันท่วงที ยิ่งถ้าลูกน้อยของคุณมีผื่นขึ้นร่วมกับปากบวม ใบหน้าบวม และหายใจติดขัดกรณีนี้เป็นเหตุฉุกเฉินที่คุณต้องพาเขาไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

ปวดท้องอย่างรุนแรง 
อาการปวดท้องมักเกิดจากการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร เด็กจะมีอาการอาหารเป็นพิษ หรือกระเพาะอาหารอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ ซึ่งจะเป็นผลให้เขาท้องร่วง และอาเจียน คุณควรเฝ้าสังเกตดูว่าเขาอาเจียน และอุจจาระบ่อยแค่ไหน เพราะการอาเจียน และอุจจาระร่วงจะเป็นผลให้เขาขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้เขาเสี่ยงต่อชีวิตได้ หากเขาอาเจียนไม่เกินสามครั้ง หรือถ่ายไม่เกินแปดครั้งภายในเวลาแปดชั่วโมงนั่นยังไม่ถึงกับทำให้ร่างกายขาดน้ำรุนแรงได้ แต่ถ้าทั้งอาเจียน และถ่ายร่วมกันก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ ดังนั้นคุณควรพาไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้อง

คอแข็ง 
อาการคอแข็งอาจเป็นเพียงแค่เจ็บปวดกล้ามเนื้อธรรมดาๆ ไปจนถึงอาการบ่งชี้ของโรคร้ายแรงอื่นได้ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ ฯลฯ อย่างไรก็ตามหากเป็นโรคร้ายแรง โดยส่วนใหญ่มักไม่ใช่เพียงแค่คอแข็งเท่านั้น แต่จะต้องมีอาการแสดงอื่นออกมาให้เห็นร่วมด้วย ดังนั้นหากคุณพบว่าลูกน้อยมีอาการคอแข็ง และเจ็บปวดที่คอ คุณควรตรวจเช็กดูว่าเขามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ หากเพียงแค่คอแข็ง และเจ็บปวดที่คออาจเป็นเพราะเขานอนไม่ถูกท่าจึงทำให้กล้ามเนื้อคออักเสบ แต่ถ้าคอแข็งร่วมกับมีไข้ขึ้น อาจเป็นอาการต่อมทอนซิลอักเสบ แต่ถ้าคอแข็ง เจ็บคอ ปวดหัว มีไข้ขึ้น การตอบสนองช้าลง เหล่านี้ให้สงสัยว่าเขาอาจมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบควรต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

ทั้งหมดนี้เป็นอาการยอดฮิตที่มักเกิดขึ้นกับเด็กเล็กๆ แต่จริงๆ แล้วยังมีอาการเจ็บป่วยธรรมดาๆ อีกมากที่สร้างความสับสนให้กับคุณแม่ว่าควรจะพาลูกน้อยไปพบคุณหมอ หรือให้การดูแลอย่างไรดี จากคำแนะนำของกุมารแพทย์ทั่วโลกกล่าวตรงกันว่าให้เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ เพราะคุณเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่ไม่แน่ใจว่าอาการเจ็บป่วยที่ลูกเป็นอยู่นั้นมีอันตรายร้ายแรงหรือไม่ ก็ให้พาไปพบแพทย์ได้เลย จำไว้ว่าเสียหน้า เสียเวลา เสียเงินทอง ดีกว่าเสียลูกไป