เจนเบตา หน้าตาหนูจะเป็นยังไงน้า??

Last updated: 24 ม.ค. 2568  | 

“เจนเบตา”
รุ่งอรุณแห่งอนาคต


ในทุกยุคทุกสมัย การเปลี่ยนผ่านของคนรุ่นใหม่เปรียบเสมือนการเปิดฉากบทใหม่ของมนุษยชาติ และเด็กเจเนอเรชั่นเบต้า (Generation Beta) จะเป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งในด้านเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และสังคม หรือแม้แต่วัฒนธรรมจะกลายเป็นวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย และอาจจะล้ำสมัยไปมากกว่าเดิม

เด็กเหล่านี้จะเป็นเหมือนแสงสว่างที่เกิดในยุคแห่งความล้ำหน้า พวกเขาจะเติบโตในโลกที่ AI และเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นเพื่อนร่วมชีวิตที่คอยเติมเต็มทุกความเป็นไป โลกของพวกเขาจะเป็นโลกไร้พรมแดน ที่ความหลากหลายกลายเป็นเอกภาพ และการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ความท้าทาย แต่คือโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่

ในขณะที่พวกเขาก้าวเข้าสู่อนาคตที่เรายังมองไม่เห็นชัด เด็กเจนเบต้าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกับหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ พวกเขาจะเติบโตมาเพื่อเป็นทั้งผู้แก้ปัญหาของโลกใบนี้ และผู้นำพาโลกไปสู่ความหวังและความยั่งยืนที่แท้จริง

ตัวตนคน “เจนเบตา”


หากมองภาพเด็กรุ่น Gen Beta ก็เหมือนมือหนึ่งถือสมาร์ตโฟน อีกมือถือขวดนม เพราะเด็กกลุ่มนี้จะเกิดท่ามกลางทุกสิ่งอย่างบนโลกเป็นดิจิทัลไปหมดแล้วค่ะ นอกจากจะเจอมือถือรุ่นซุปเปอร์พรีเมียมไฮเทคแล้ว เขาอาจจะมีพี่เลี้ยงเด็กเป็นหุ่นยนต์ และมีสัตว์เลี้ยงเป็น AI ส่วนของเล่นรอบตัวมันวุบวับวอบแวบด้วยเทคโนโลยีรุ่นล้ำกันหมดแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่า ภายในปี 2583 จะมีหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ถึง 1 ล้านตัวเลยทีเดียวค่ะ



เมื่อทุกสิ่งอย่างรอบตัวของเด็กเบต้าช่างเฟื่องฟูด้วยระบบอัจฉริยะกันขนาดนี้ ย่อมบอกได้เลยว่าพฤติกรรมของเด็กรุ่นนี้จะเป็นคนใจกว้าง สร้างสรรค์ อิสระทางความคิด เปิดรับแนวคิดใหม่ๆ และเป็นคนคิดนอกกรอบมากกว่าเจนอัลฟ่าก่อนหน้า ที่สำคัญคือมีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เน้นความยั่งยืน ตระหนักรู้ถึงปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมที่โลกเผชิญอยู่ ที่สำคัญคือ กลุ่มเด็กเจนนี้ชอบพัฒนางานและทำธุรกิจของตัวเอง โดยมีกลุ่มเจน Z รุ่นพ่อ รุ่นแม่ เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังมากขึ้น

จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Mark McCrindle นักประชากรศาสตร์ (Demographer) และนักวิจัยที่มีชื่อเสียงจากออสเตรเลีย ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ McCrindle Research ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการศึกษาประชากรศาสตร์ แนวโน้มทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นต่างๆ คาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2578 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า Gen Beta จะมีจำนวนถึง 16% ของประชากรโลกที่เกิดจากกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z หมายความว่า แต่ละ Generation จะต้องอยู่ร่วมกับ Gen Beta และปรับตัวเข้าหากัน โดยตระหนักบนพื้นฐานที่ Gen Beta เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่นเก๋าอย่าง Gen Baby Boomer รวมถึง Gen X, Millennials, Gen Z, Gen Alpha จำเป็นที่ต้องปรับรูปแบบการสื่อสาร และการเรียนรู้ระหว่างกันเพื่อให้เกิดความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของแต่ละ Generation ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น



อาหารและเครื่องดื่มของเด็กเบต้า


ใครที่กำลังเตรียมแผนทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็กเจนเบต้าควรต้องใช้ความทันสมัย เทคโนโลยี ความใส่ใจสุขภาพ และความยั่งยืน พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานมาผสมผสานกันอย่างเหมาะสม หากธุรกิจสามารถตอบโจทย์ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครองได้ ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงในตลาดยุคนี้ เช่น อาหารเพื่อสุขภาพที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง เสริมสร้างอาหารสมอง สร้างภูมิคุ้มกัน และทำให้สุขภาพลำไส้สมบูรณ์แข็งแรง คาเฟ่ครอบครัวจะถูกแบ่งโซนอาหารและโซนกิจกรรมสำหรับเด็ก เช่น โซน AR/VR ให้เด็กได้เรียนรู้ขณะรับประทานอาหาร

ปัจจัยที่อาจกำหนดอนาคตคน “เจนเบตา”


-AI และเทคโนโลยีอัตโนมัติ: ทุกอย่างจะถูกขับเคลื่อนด้วย AI ในระดับที่ล้ำหน้ากว่าปัจจุบัน
-ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น: เด็กเจนเบต้าจะต้องแบกรับภาระในการดูแลผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น
-การเปลี่ยนแปลงโลก: สังคมและเศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซึ่งพวกเขาต้องปรับตัวให้ทัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้