Last updated: 15 ก.พ. 2565 |
มองว่าการเรียนออนไลน์ก็มีข้อดี
แม้เราจะยอมรับว่าการเรียนออนไลน์ยังไงก็คงไม่ดีเท่าการเรียนในห้องเรียน แต่อย่างน้อยมันต้องมีข้อดีอยู่บ้าง เช่น ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้น ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับด้านไอทีมากขึ้น เรามีความเข้าใจและรู้ปัญหาในการเรียนของลูกเราได้มากขึ้น ดีไม่ดีเราอาจได้รู้ว่าจุดเด่น จุดด้อย หรือวิชาที่ลูกเราถนัดจริงๆ หรือเราอาจได้ช่วยแนะนำให้ลูกเราไปต่อยอดบางเรื่องในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ
ไม่คาดหวังกับการเรียนออนไลน์ของลูกมากเกินไป
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ลูกเรียนที่โรงเรียน ทำให้พ่อแม่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับลูกมากเท่ากับคุณครู และพ่อแม่ส่วนใหญ่มักมีความคาดหวังว่าการเรียนออนไลน์ของลูกจะต้องออกมาดีพร้อมครบถ้วน ทำให้เกิดความกดดันทั้งพ่อ แม่ และลูก แต่ถ้าพ่อแม่ลดความคาดหวังลง จะช่วยให้ลูกผ่อนคลายมากขึ้น การเรียนสนุกขึ้น และลูกอาจจะเรียนได้เข้าใจมากขึ้น
ทำกิจกรรมออฟไลน์สร้างความสัมพันธ์กับลูกบ้าง
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องสนุกกับลูกบ้าง เพื่อลดความเครียดและสร้างความสัมพันธ์ ฉะนั้นควรใช้โอกาสนี้ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้หน้าจอ เช่น ทำอาหาร ทำงานบ้าน ออกกำลังกาย เล่นเกมส์ ต่อเลโก้ เป็นต้น
พ่อแม่ต้องลดความกดดันของตัวเองลง
เวลาเจออุปสรรคในการเรียนออนไลน์ พ่อแม่มักจะโทษตัวเองว่าทำไม่ดีพอ เป็นพ่อแม่ที่ไม่เก่ง จึงสร้างความเครียดให้กับตนเอง การคิดแบบนี้นอกจากจะบั่นทอนความรู้สึกตัวเองแล้ว ยังทำให้ขีดความสามารถในการสอนลูกของเราลดลงอีกด้วย พ่อแม่ควรทำความเข้าใจว่าพ่อแม่เองก็อยู่ในช่วงปรับตัว และกำลังปรับเปลี่ยนเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกเช่นกัน
แชร์ข้อจำกัดของครอบครัวให้โรงเรียนรับรู้
แต่ละบ้านมีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน บางบ้านพ่อแม่ต้องออกไปทำงานทั้งวัน บางบางพ่อแม่ยังต้อง WFH บางบ้านแม่ต้องเลี้ยงน้องอีกคนไปด้วย การคุยกับโรงเรียนถึงข้อจำกัดไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่เป็นสิ่งที่โรงเรียนควรได้รับรู้และทำความเข้าใจ พ่อแม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับทางโรงเรียน และให้ทางโรงเรียนทำความเข้าใจกับความจำเป็นที่เกิดขึ้น และช่วยพ่อแม่หาทางแก้ไขที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
23 ส.ค. 2567
20 ก.พ. 2566
10 ต.ค. 2566