ลูกร้องไห้... พ่อ แม่ว้ากดังใส่ลูกทำไม!

Last updated: 23 มิ.ย. 2562  | 

 

ในชีวิตประจำวันเรามักพบเห็นเด็กน้อยร้องให้เสียงดัง เด็กบางคนร้องไห้เก่ง และเด็กบางคนแทบไม่ร้องเลย... วันนี้ข้างบ้านมีลูกน้อย เด็กเสียงดีไม่เบา ร้องวันละหลายรอบ คนเป็นแม่อย่างเราฟังแล้วรู้สึกสงสารทั้งแม่และลูก

 

โดยลำพังตัวพ่อแม่เองคงทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด จากการที่ต้องทำหน้าที่หลายอย่าง และยิ่งต้องอยู่ในสถานะการณ์ที่ลูกน้อยส่งเสียงร้องดัง เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอว้ากใส่ลูกด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน ...แล้วที่นี้จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ

 

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กแรกเกิด – 5 ขวบ

พบว่า การปล่อยเด็กให้ร้องไห้นาน ๆ เกินไป ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กจะร้องไห้ไม่เกิน 15 นาที คุณพ่อ คุณแม่จึงไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยร้องไห้เกิน 20 นาที เพราะจะทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติโซลออกมามากขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ และความทรงจำ รวมถึงขัดขวางกระบวนการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ๆด้วย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปล่อยให้ลูกน้อยร้องไห้นาน ๆ ขาดการอุ้ม หรือปลอบโยนจากคุณพ่อ คุณแม่ เด็กน้อยจะรู้สึกเหนื่อย และหลับไปเองในที่สุด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด เพราะสารเคมีที่หลั่งออกมา มีผลต่อจิตใจ และพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกได้

 

การที่ลูกร้องไห้ไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ที่แปลกเพราะแม่มือใหม่ไม่เคยเจอภาวะการร้องไห้ของลูกมาก่อนต่างหาก ไม่ได้เตรียมรับมือมาก่อนว่า เมื่อลูกร้องให้ต้องทำยังไง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการระเบิดอารมณ์ที่แม่ควบคุมตัวเองไม่ได้ใส่ลูก โดยส่วนตัวคิดว่า ผู้ที่จะช่วยให้แม่คุมอารมณ์คือคนที่อยู่ข้างกาย หากสามารถแบ่งเบาภาระในบ้าน คอยให้กำลังใจ ใส่ใจแม่สม่ำเสมอ รับฟังคำบ่นบ้าง จะทำให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย หายเครียดลงได้เมื่อต้องเจอสภาวะกดดันจากเสียงร้องของลูก

 

แม่ต้องทำยังไง

สำคัญที่สุดคือห้ามรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำให้ลูกหยุดร้องได้ ถ้าสอบผ่าน 3 เดือน ไปได้แม่จะภูมิใจว่า...(นี่ผลงานแม่นะ) ขณะที่ลูกร้องไห้ อย่าตื่นเต้น อย่ากระวนกระวาย อย่ามือไม้สั่น เปิดเพลงใส่หูฟังเพื่อกลบเสียงร้องของลูก แล้วค่อยปลอบลูกเบาๆ กอดลูกมาก ๆ กอดนาน ๆ อย่าคิดว่าอุ้มลูกมากแล้วจะทําให้ลูกติดมือ เพราะผลการวิจัยบอกว่าเด็กที่มีการอุ้ม จะร้องน้อยกว่าเด็กที่ไม่ถูกอุ้ม และโตขึ้นจะมีพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เป็นเด็กขาดความรัก  ....หากแม่เครียดมาก ควรหาเวลาให้ตัวเองบ้าง ออกไปดูหนัง ช้อปปิ้ง ฟังเพลง ออกกำลังกาย เพราะการจะเป็นแม่ที่ดีได้ตัวแม่เองต้องพร้อมทั้งกายและใจก่อนเสมอ

ยังกังวลอยู่ว่า เด็กข้างบ้านที่ร้องวันละหลายรอบ และถูกแม่ว้ากใส่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นยังไง ทุกครั้งที่ได้ยินได้แต่ภาวนาว่า อย่า ๆ หยุดว้ากเหอะ แม่ยุคใหม่ต้องไม่เครียด ไม่ว้ากนะจ๊ะ!....พยายามบอกลูกสิว่า...ลูกจ๋านี่แม่นะ อย่าร้องนะๆๆๆ 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้