Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
ที่ผ่านมาการตรวจเพศของทารกสามารถทำได้โดยการตรวจอัลตร้าซาวด์ ซึ่งก็สามารถเห็นเพศของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ แต่อัตราความแม่นยำนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นท่าของทารก ความชำนาญของผู้ตรวจ ความคมชัดของเครื่องอัลตร้าซาวด์ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำมาอ้างอิงในการวินิจฉัยได้ 100%
การตรวจน้ำคร่ำ เป็นวิธีการตรวจที่ได้ผลแน่ชัดมากที่สุด ความแม่นยำสูง และสามารถนำมาอ้างอิงในการวินิจฉัยและตัดสินใจในแผนการรักษาได้ การตรวจน้ำคร่ำ คือการดูดเอาน้ำคร่ำซึ่งเป็นน้ำที่อยู่ล้อมรอบตัวทารกในครรภ์ ซึ่งมีเศษชิ้นส่วนของเซลล์ของทารก ซึ่งเราสามารถนำมาตรวจโครโมโซมได้ และจะสามารถทราบผลได้ว่าทารกเป็นเพศอะไร แต่การตรวจน้ำคร่ำก็ไม่สามารถทำได้ในระยะที่เริ่มตั้งครรภ์ ส่วนมากจะสามารถทำการตรวจได้เมื่ออายุครรภ์ 18-20 สัปดาห์ ซึ่งผลการตรวจต้องใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ ดังนั้นการที่จะวางแผนการรักษาก็อาจทำได้ล่าช้า
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจได้จากเนื้อเยื่อจากรก ก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำการตรวจวินิจฉัยเพศของทารกได้ โดยทำการดูดชิ้นเนื้อจากรกของทารกออกมาตรวจโครโมโซม สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ แต่ผลเสียคือมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ จึงจำกัดการตรวจในแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการตรวจเท่านั้น และจะกระทำเมื่อมีความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัจจุบันการตรวจเพศของทารกสามารถทำได้ง่ายขึ้น เพียงแค่การตรวจเลือดแม่เพื่อหาเซลล์ของทารกเพศชาย (cell-free fetal DNA) ผลการตรวจก็มีความแม่นยำค่อนข้างสูง แม้จะไม่ใช่ 100% แต่ก็สามารถช่วยคัดกรองเบื้องต้นได้ ผลการตรวจที่บอกว่าทารกเป็นเพศชายมีความแม่นยำ 98.8% ผลการตรวจที่บอกว่าทารกเป็นเพศชายมีความแม่นยำ 94.8%
การตรวจเพศจากเลือดของแม่นี้จะถูกนำมาใช้ในยุโรป แต่ก็มีการจำกัดการตรวจในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา เนื่องมากจากความกังวลเกี่ยวกับการนำผลการตรวจไปใช้ในทางที่เป็นผลเสีย เช่นทำให้เกิดการทำแท้งหากไม่ใช่บุตรเพศที่ต้องการในบางสังคม เนื่องจากการตรวจนี้สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆเพียงแค่ 7 สัปดาห์เท่านั้น และราคาก็ยังไม่สูงมากนัก ประมาณหมื่นกว่าบาทเท่านั้น
ในประเทศไทยก็ยังไม่มีการตรวจชนิดนี้ แต่ยังโชคดีที่เราสามารถตรวจวินิจฉัยโรคที่ถ่ายทอดทางโครโมโซมเพศได้อีกวิธีหนึ่ง โดยที่สามารถตรวจได้ตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ นั่นคือการตรวจจากเซลล์ของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือเด็กหลอดแก้วนั่นเอง แม้ว่าการตรวจนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็มีความแม่นยำสูง และไม่ต้องมีการทำให้สิ้นสุดการตั้งครรภ์ เพราะเป็นการตรวจก่อนตั้งครรภ์ และคัดเลือกตัวอ่อนเพศที่ไม่เป็นโรคใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูกแม่ให้ตั้งครรภ์ได้
29 ก.ย. 2566
9 ต.ค. 2567