Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วว่าช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเสี่ยงที่อาจเกิดการแท้งขึ้นได้ ดังที่คุณหมอจะเน้นย้ำให้คุณแม่ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาสามเดือนแรกที่ไปฝากครรภ์กับคุณหมอ ซึ่งการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพครรภ์ที่ดีนั้นคงไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก ที่น่าจะเป็นปัญหาก็คือ คุณแม่ส่วนใหญ่มักสับสนว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่อาจเป็นเหตุให้เกิดการแท้งขึ้นได้ ด้วยความสับสนนี้เองที่ทำให้คุณแม่พลาดกิจกรรมดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไร เรามาเริ่มต้นทำความเข้าใจกันใหม่ใน 10 กิจกรรมต่อไปนี้เป็นเหตุให้แท้งหรือไม่มาติดตามอ่านกัน
5 กิจรรมที่ทำคุณกังวลว่าจะเป็นเหตุให้เกิดการแท้ง
1.เซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์: เป็นที่สงสัยกันเหลือเกินว่า เมื่อตั้งครรภ์แล้ว คุณยังสามารถมีอะไรๆ กับว่าที่คุณพ่อได้หรือไม่ ถ้าหากคุณกล้าที่จะถามคุณหมอ ก็จะได้รับคำตอบว่า “ไม่ควรในช่วง 3 เดือนแรก แต่หลังจากนี้เชิญตามสบาย” ความจริงก็คือว่า ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดที่อ้างว่ามีผู้ที่ตั้งครรภ์แล้วเกิดการแท้งขึ้นด้วยสาเหตุจากการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ที่คุณหมอห้ามเอาไว้ในช่วงสามเดือนแรกนั้น เป็นเพราะในช่วงสามเดือนแรก เป็นช่วงที่ทารกกำลังเร่งสร้างอวัยวะสำคัญๆ อยู่ ซึ่งหากเขาได้รับการกระทบกระเทือนในช่วงสามเดือนนี้ ก็อาจเป็นผลให้เขามีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ได้ แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากยกเว้นแต่ว่าคุณจะมีประวัติการแท้งมาก่อน
2.การออกกำลังกายในช่วงตั้งครรภ์: ที่จริงแล้วควรจะเป็นประโยชน์กับคุณและลูกของคุณมากกว่า หากคุณไม่เกิดล้าแล้วเลิกไปเสียก่อน แต่ก็มีข้อแม้นิดหน่อยตรงที่ว่าคุณควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าหักโหมมากนักโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากก่อนหน้าที่คุณจะตั้งครรภ์ คุณยังไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน
3.การเดินทางโดยเครื่องบิน: ไม่เคยมีประวัติการณ์มาก่อนว่า การเดินทางโดยเครื่องบินจะสร้างปัญหาสุขภาพให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ ไม่ว่าเที่ยวบินนั้นจะเป็นระยะใกล้ไกลแค่ไหนก็ตาม ยกเว้นเสียแต่ว่า หากคุณเดินทางในช่วงใกล้คลอดก็อาจมีโอกาสเสี่ยงที่คุณจะขึ้นไปคลอดบนเครื่อง ซึ่งบนนั้นจะไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือคอยให้บริการกับคุณนั่นเอง
4.อัลตราซาวน์: ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่า คุณแม่ที่ทำการอัลตราซาวน์บ่อยๆ เป็นผลให้ลูกน้อยในครรภ์หลบมาอยู่ทางด้านซ้ายของท้องคุณแม่ นอกจากนี้แล้วก็ไม่พบว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายใดๆ ขึ้นอีก
5.การใช้คอมพิวเตอร์: หากหน้าที่การงานของคุณจำเป็นต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ คุณไม่ต้องกังวลว่ารังสีจากหน้าจอจะทำอันตรายใดๆ ต่อการตั้งครรภ์ของคุณจนทำให้คุณต้องแท้ง หรือลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ เพราะรังสีจากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างอันตรายให้เกิดขึ้นกับลูกน้อยในครรภ์ของคุณได้ แต่สำหรับคุณแล้วล่ะก้อไม่แน่ เพราะเคยมีผลงานวิจัยออกมาเตือนว่า การนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ จะเป็นผลให้เกิดความเครียดขึ้นได้ นอกจากนี้ การนั่งนานๆ อาจทำให้คุณรู้สึกปวดเมื่อยขึ้นได้
5 กิจกรรมที่คุณคาดไม่ถึงว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการแท้ง
1. การอบซาว์นน่า: แม้ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมายืนยันว่า การอบซาว์นน่าในขณะตั้งครรภ์จะส่งผลอันตรายต่อลูกในท้อง แต่ก็คงไม่ดีแน่ถ้าคุณจะอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานๆ ในขณะตั้งครรภ์ อย่างน้อยๆ ความร้อนจะทำให้คุณเสียเหงื่อออกมาก และมีผลทำให้เลือดมีความเข้มข้นจนถึงจุดอันตรายได้ ดังนั้นหากคุณต้องการอบซาว์นน่าขณะตั้งครรภ์ ให้จำกัดเวลาไว้ไม่เกิน 10 นาทีต่อวัน นอกจากนี้ ควรงดการอาบน้ำด้วยน้ำร้อนด้วย เพราะความร้อนอาจทำให้ลูกน้อยในท้องของคุณรู้สึกร้อนมากเกินไปได้
2. การดื่มชา กาแฟ: มีรายงานผลการวิจัยสรุปออกมาแล้วว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มชา กาแฟ มากเกินวันละ 6 ถ้วยต่อวันมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการแท้งขึ้นได้ ซึ่งในเรื่องนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะทราบกันดี และเริ่มควบคุมการดื่มชา กาแฟ ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาเฟอีนไม่ได้มีมากในชา กาแฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีในอาหาร และเครื่องดื่มชนิดอื่นอีกด้วย เช่น น้ำอัดลม ช็กโกแลต หรือแม้แต่กาแฟที่สกัดคาเฟอีนออกแล้ว
3. การเอ็กซเรย์: แม้การเอ็กซเรย์เพื่อการรักษาในขณะตั้งครรภ์จะไม่เป็นสาเหตุให้เกิดการแท้ง หรือเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ แต่ถึงกระนั้น คุณหมอก็จะไม่ให้การรักษาด้วยวิธีการเอ็กซเรย์กับคุณ หากอายุครรภ์ของคุณยังไม่ถึง 8 สัปดาห์
4. การใช้เตาอบไมโครเวฟ: เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งมีรายงานออกมาว่ารังสีจากเตาอบไมโครเวฟอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาในขณะตั้งครรภ์ได้ กระนั้นตราบใดที่ยังไม่มีรายงานด้านวิทยาศาสตร์ออกมายืนยัน ก็หมายความว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการอยู่ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วจะทำอันตรายกับเด็กในท้องได้ แต่การรับประทานอาหารที่ปรุง หรืออุ่นในไมโครเวฟเป็นปริมาณมาก อาจเป็นการรับเอารังสีเข้าสู่ร่างกายโดยตรง
5. การอุดฟัน: ถ้าคุณเคยอุดฟันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาสารอุดฟันออกเมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ เพราะสารปรอทที่มีอยู่ในอะมอลกัม (สารปรอทผสมกับโลหะอื่นใช้สำหรับอุดฟันผุ) มีปริมาณไม่มากพอที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดการแท้งขึ้นได้ แต่ในกรณีที่ตั้งครรภ์แล้ว ไม่ควรที่จะไปอุดฟันใหม่ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
29 ก.ย. 2566
9 ต.ค. 2567